ขิม
ขิม
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้คำอธิบายไว้ว่า "เครื่องดนตรีจีนชนิดหนึ่ง
รูปคล้ายพระจันทร์ครึ่งซีกใช้ตี" ขิมถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยชาวจีนนำมาบรรเลงรวมอยู่ในวงเครื่องสายจีน
และประกอบการแสดงงิ้วบ้าง บรรเลงในงานเทศกาล และงานรื่นเริงต่าง ๆ บ้าง
คำว่า ขิม มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน
ซึ่งมาจากอักษรจีน 琴 ซึ่งในภาษาจีนกลางอ่านว่า
ฉิน
นักดนตรีไทยนำขิมมาบรรเลงในสมัยต้นรัชกาลที่ 6 โดยแก้ไขบางอย่าง
คือเปลี่ยนสายลวดทองเหลืองให้มีขนาดโตขึ้น เทียบเสียงเรียงลำดับ ไปตลอดจน
ถึงสายต่ำสุด เสียงคู่แปดมือซ้ายกับมือขวามีระดับเกือบตรงกัน เปลี่ยนไม้ตีให้ใหญ่และก้านแข็งขิ้น
หย่องที่หนุนสาย มีความหนา กว่าของเดิมเพื่อให้เกิดความสมดุล
และมีความประสงค์ให้เสียงดังมากขึ้น
และไม่ให้เสียงที่ออกมาแกร่งกร้าวเกินไปให้ทาบสักหลาดหรือหนังตรงปลายไม้ตี
ส่วนที่กระทบกับสาย ทำให้เสียงเกิดความนุ่มนวล และได้รับความนิยม บรรเลงร่วมอยู่ในวงเครื่องสายผสมจนถึงปัจจุบัน
ประเภทของขิม
1.ขิมผีเสื้อ เป็นแบบที่พบได้ทั่วไปรูปร่างคล้ายพระจันทร์ครึ่งซีกมีหยักโดยรอบ
มักมีลิ้นชักใส่ค้อนปรับเสียง และมีช่องให้เสียงออกสองช่องที่หน้าขิม
มีตุ๊กตาขิมแปะไว้ เมื่อนำฝาขิมมาประกอบเรียงกับไม้ขิม และลิ้นชักที่ว่านั่น จะได้รูปร่างคล้ายผีเสื้อ
ถ้าเป็นแบบเก่ามีการเขียนลายแบบจีนที่ฝาขิมเป็นรูปแปดเทพของจีน
จะเรียกขิมโป๊ยเซียน
2.ขิมคางหมู
เป็นขิมที่การลดทอนรายละเอียดที่เป็นหยักโดยรอบของขิมผีเสื้อให้กลายเป็นไม้เรียบๆสัณฐานโดยรวมเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูจึงเรียกขิมคางหมู
เจาะช่องให้เสียงออกด้านข้างเป็นแนวยาว
3.ขิมแผ่น เป็นขิมที่ใช้แถบโลหะขนาดต่างกันแปะวางบนหน้าขิมแทนตำแหน่งเสียงบนขิมใช้ไม้เป็นพลาสติกหัวกลมแข็ง
เหมาะสำหรับฝึกเล่นในเบื้องต้นให้รู้จักเสียง ตีให้ตายยังไงก็ไม่มีปัญหาสายขาด
4.ขิมกระเป๋า เรียกขิมที่ยึดตัวขิมไว้กับกระเป๋าอย่างแน่นหนาถือหิ้วไปมาได้
5.ขิมหลอด โครงสร้างคล้ายขิมแผ่นแต่เปลี่ยนจากแถบโลหะ
เป็นหลอดโลหะกลวงเทียบเสียงแล้วติดวางบนหน้าขิม ใช้ไม้ขิมธรรมดาตีได้
ส่วนประกอบของขิม
1) ตัวขิม 2) ขอบฝาขิม 3) ไม้ตีขิม 4) พื้นฝาขิม 5) หมุดยึดสายขิม
6) สลักกุญแจ 7) กุญแจ 8) กระบอกเทียบเสียง
9) วงช่องเสียง
10) หูหิ้ว
11) หย่องขิม 12) สายขิม 13) หย่องบังคับเสียง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น